
พี่ EDUGEN เชื่อว่าต้องมีหลายคนแน่นอนที่สงสัยว่า IELTS คืออะไร? วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการสอบรูปแบบนี้กัน อธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ IELTS คือการสอบที่ช่วยวัดระดับความรู้ด้านภาษาอังกฤษครบทั้ง 4 ด้าน คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน และสำคัญมากสำหรับคนที่จะไปเรียน หรือไปทำงานในต่างประเทศ และต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร
ประโยชน์ของ IELTS ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะคะแนนสอบ IELTS ยังสามารถนำไปใช้สมัครงาน สำหรับสถานที่ทำงานบางแห่งที่ต้องใช้คะแนน IELTS เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณารับเข้าทำงานด้วย
IELTS คืออะไร ?
IELTS (International English Language Testing System) คือข้อสอบที่ใช้วัดความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมทักษะทั้ง 4 ด้าน คือ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด ออกแบบมาเพื่อใช้ประเมินความสามารถของผู้ที่ต้องการเรียนหรือทำงานโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร
โดยผลสอบ IELTS นั้นเป็นที่ยอมรับจากองค์กรกว่า 10,000 แห่ง ครอบคลุมทั้งองค์กรภาครัฐ สถานศึกษา และสถาบันชั้นนำใน 140 ประเทศ เช่น ประเทศไทย ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา
สอบ IELTS เพื่ออะไร?
-
เพื่อการศึกษาต่อ (Academic Modules) เป็นการทดสอบความพร้อมเพื่อศึกษาต่อในต่างประเทศที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญาเอก
- เพื่อการฝึกอบรม (General Training Modules) สำหรับผู้ที่วางแผนใช้ภาษาเพื่อการฝึกอบรม หรือทำงานในต่างประเทศที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วข้อสอบจะใช้วัดความรู้ภาษาอังกฤษในระดับพื้นฐาน และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศนิวซีแลนด์ หรือประเทศออสเตรเลีย
4 ทักษะ ในการสอบ IELTS
- การฟัง (Listening) 30 นาที 4 ส่วน
ผู้สอบต้องฟังเนื้อเรื่องจากเครื่องเล่นส่วนตัว ซึ่งจะฟังได้เพียงครั้งเดียวในแต่ละเรื่อง เนื้อหาจะประกอบไปด้วยการสนทนา และบทพูด รวมทั้งการออกเสียง ในช่วงท้ายจะมีเวลาอีก 10 นาที ให้เขียนคำตอบและตรวจสอบความเรียบร้อยลงใน Answer Sheet
- การอ่าน (Reading) 60 นาที 40 ข้อ
มีเนื้อเรื่องให้อ่าน 3 บทความ พร้อมด้วยคำถามที่ต้องปฎิบัติตาม ซึ่งเนื้อหาได้มาจากหนังสือ นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ เป็นเรื่องทั่วไป ไม่ได้เจาะจง
- การเขียน (Writing) 60 นาที 2 เรื่อง
- เรื่องที่ 1 เป็นการเขียนในลักษณะอธิบายข้อมูลที่ให้มาในรูปแบบกราฟ ตาราง แผนผัง เราจะต้องมีการเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ ต้องเขียนอย่างน้อย 150 คำ
- เรื่องที่ 2 เป็นเขียนเรียงความหรือรายงานอย่างเป็นทางการ และเป็นการแสดงความคิดเห็น การหาทางออกของปัญหาหรือวิจารณ์หัวข้อที่ให้มา โดยต้องเขียนอย่างน้อย 250 คำ
- การพูด (Speaking) 11-14 นาที 3 ส่วน
- ส่วนที่ 1 เป็นการพูดคุยเรื่องทั่ว ๆ ไป การใช้ชีวิตประจำวัน
- ส่วนที่ 2 กรรมการจะมีเวลาให้เตรียมตัวก่อนพูด 1 นาที โดยจะมีบัตรคำถามมาให้ และให้เราพูดคนเดียว
ประมาณ 3-4 นาที
- ส่วนที่ 3 จะมีลักษณะคล้ายกับการพูดโต้ตอบกันในหัวข้อที่ได้จากส่วนที่สอง